เอาหล่ะค่ะ เมื่อวาน ได้ฤกษ์ดี ได้ไปซื้อแหวนซะที
เรามาดูขั้นตอนการตัดสินใจกันค่ะ
อันดับแรก ตั้งงบไว้ในใจคร่าวๆค่ะ ว่าเรา หรือ ว่าที่สามีของเรา พอใจจะจ่ายที่เท่าไหร่ ถ้าเกิดคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าควรจะตั้งงบเท่าไหร่ดี ก็เข้าไปศึกษาเว็บร้านขายเพชรต่างๆนะคะ หลายๆร้านจะมีราคาเพชรแบบที่เป็นเม็ดๆนะคะ มีตารางเอาไว้ให้ เราก็เข้าไปดูเปรียบเทียบแต่ละร้านไว้ อย่างน้อย เราก็จะพอกะราคาคร่าวๆได้ว่า ถ้างบสองหมื่น จะได้เพชรไซส์ประมาณนี้ สามหมื่น ได้เท่านี้ ห้าหมื่นได้เท่านี้ แสนนึงได้เท่านี้ ประมาณนี้ค่ะ
ราคาตัวเรือนก็จะประมาณหนึ่งหมื่น ถึง สอง หรือ สามหมื่น แล้วแต่ว่า เราจะเอาตัวเรือนแบบเรียบๆ หรือมีเพชรเม็ดแนวเล็กๆๆ มาประดับ จะเอาทองคำ หรือ white gold หรือ platinum
ทองคำก็ แน่นอน สีทอง ชอบมั๊ยล่ะ ส่วนตัวคิดว่า พอเอามาใส่กับเพชร มันดูตลก แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะคะ white gold ทองขาว ร้านที่ขายบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็น white gold 18K มันก็คือเอาทองคำมาผสมกับ นิกเกิลหรือพาลาเดียม ใส่ๆไป มันก็จะลอก เห็นเป็นเนื้อทองคำข้างใน ก็เอาไปชุบใหม่ แค่นั้นเอง อ้วนขึ้น หรือ ผอมลง ก็ขยายออก หดเข้าได้ platinum แข็งแรง ไม่ลอก ไม่ดำ แต่เนื่องจากหายาก จึงแพงกว่า white gold น่าจะเท่าตัวเลยที่เดียว เปลี่ยนแปลงขนาด รูปร่างก็ไม่ได้ อ้วนขึ้น ผอมลง ซื้อใหม่อย่างเดียว
ส่วนตัวซื้อ white gold มาค่ะ ตอนแรกอยากได้ platinum เพราะที่อังกฤษ มีขายเยอะแยะ ราคาสูงกว่า white gold เยอะ แต่ไม่ถึงกับเท่าตัวค่ะ แต่ที่บ้านเราหายาก แพงมากด้วย อีกอย่าง กลัวซื้อ platinum มาแล้ว พอเราอ้วนขึ้น ใส่ไม่ได้ แล้วเราบอกสามีไป ว่าจัดมาให้ใหม่หน่อยสิคะที่รัก วงเก่าใส่ไม่ได้แล้ว แต่เกิดสามีบอก ไปลดความอ้วนดีกว่ามั๊ย คงจะมีเคืองแน่นอน
งบสองหมื่นต้นๆ ถึงสามปลายๆ น่าจะได้เพชรเม็ดประมาณสามสิบตังค์ งบสามหมื่นกลางๆถึงสี่หมื่นปลายๆ ก็จะได้ประมาณสีสิบตังค์ เราก็ลองเอาราคาของเพชรเม็ดที่อยากได้ มาบวกราคาตัวเรือนเข้าไป จ่ายไหวมั๊ย ถ้าไหวก็ตามนั้น ถ้าไม่ไหว ก็ลดขนาดเพชรลงมา
อันดับต่อไป ก็ลองเลือกแบบตัวเรือนที่เราชอบเอาไว้ซักสี่ห้าแบบ แล้วไปดูของจริงที่ร้าน หลายๆร้านก็ได้ค่ะ เอามาใส่เทียบกับนิ้วดูค่ะ เพราะบางแบบ เราชอบ สวยมาก แต่มันไม่ได้เข้ากับสภาพป้อมๆของนิ้วเราเลย ความป้อมของนิ้ว ข้อนิ้ว ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ใส่แหวนแบบเดียวกัน ออกมาสวยไม่เท่ากัน
ไม่ต้องกลัวว่า ลองแล้วไม่ซื้อร้านจะว่า ว่าไม่ได้ค่ะ เราจะเอาตังค์ไปให้ แล้วของไม่ใช่ สอง สามบาท จะได้ตัดสินใจได้เลย เราก็ต้องเลือกที่ชอบจริงๆ ตัวเรือนบางแบบก็ออกแบบมาใส่เพชรเม็ดใหญ่ แต่เรามีงบซื้อเม็ดเล็ก มันก็ใส่กันไม่ได้ เราก็ต้องมีตัวเลือกไปให้ตัวเราเองด้วย
เอาล่ะค่ะ รู้วิธีดูเพชร แล้ว รู้ราคาคร่าวๆแล้ว เราก็พร้อมจะไปที่ร้านกันแล้ว
เราตกลงใจไปซื้อที่ร้านลีลาเจมส์
เหตุผลเพราะว่าชอบแบบของตัวเรือนแหวนที่ร้านนี้ และหลังจากเราไปเดินมาสี่
ห้า ร้าน ที่ร้านนี้ เค้าทำยังไงไม่รู้ เพชรดูใหญ่ และเด่นมาก
เช่นเพชรเม็ดกลางสามสิบตังค์ พอเอามาใส่ตัวเรือน ร้านอื่นดูเล็กมาก แต่ร้านนี้เพชรก็สามสิบตังค์เท่ากัน แต่ดูเม็ดเบ้อเริ่มเลย
วันที่ไป เป็นวันเสาร์ เราไปถึงประมาณเกือบเที่ยงค่ะ ก็มีคนอยู่ในร้านสองคน พอดีเรามีในใจไปแล้ว ว่าอยากจะได้อะไรแบบไหน ไปถึง เราก็คุยกับเค้าเลยว่า เราจะเอาตัวเรือน ประมาณนี้ เพชรไซส์ประมาณนี้ ก็มีตัวเลือกให้เลือก สองสามเม็ด อันที่มีในใจไปจากบ้าน ขายไปแล้วหนึ่ง ก็เลยเหลือ สองเม็ด เม็ดแรก 0.40 D VS1 แต่ยังไม่มีใบเซอร์ ร้านบอกจะมาอาทิตย์หน้า อีกเม็ดเป็น 0.41 E VVS2 มีใบเซอร์เลย
ราคาสองเม็ดนี้ไม่ต่างกัน ร้านบอกว่า D กับ E มองไม่ออกด้วยตาเปล่าแน่นอน ว่าต่างกัน เราก็ลองเทียบสองเม็ดนี้ ดูมันก็ดูไม่ออกจริงๆ เม็ด D ขาวกว่า แต่เม็ด E ความสะอาดมากกว่า ราคาขายคืน (ถ้าจะขายในอนาคต) ไม่ต่างกัน แต่แฟนอยากได้อันที่มีใบเซอร์เลย ในที่สุดก็เลยได้ E มาค่ะ
ตัวเรือนก็มีในใจไปแล้ว สองสามแบบ เอามาเทียบใส่นิ้วดู แล้ว ก็เลือกแบบที่ดูเข้ากันกับนิ้วเราที่สุด พอดีตัวเรือนแบบที่ชอบ ทางร้านเค้าใส่เพชร ห้าสิบตังค์เอาไว้ เราก็ชอบนะคะ แต่ว่าราคามันเกินงบไปมาก ก็เลยยืนยันเอาเพชรเม็ดที่ใกล้งบที่ตั้งไว้ ตอนได้แหวนกลับมา เพชรเม็ดเล็กกว่าแบบ แต่ก็ยังสวยเท่าเดิม พอใจมากๆเลยค่ะ
ที่ร้านจะมีกล้องส่องให้ดูว่า เพชรเม็ดที่เค้าหยิบขึ้นมา และใบเซอร์ที่เค้าหยิบขึ้นมาแล้วบอกว่าเป็นของเพชรเม็ดนี่น่ะจริง ดูได้จากเลเซอร์ที่ขอบเพชรจะมีเลขที่ GIA ต้องเป็นตัวเลขเดียวกันกับบนใบเซอร์
เราขอดูทั้งตอนที่มันยังเป็นเม็ดๆอยู่ และ ดูตอนที่เค้าเอาไปใส่บนตัวเรือนแล้ว
พอดีเพชรที่เราลือก และตัวเรือนที่เราชอบ มีอยู่ในสต็อกแล้วทั้งคู่ ใช้เวลาแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ได้แหวนกลับมาบ้านแล้วค่ะ บริการหลังการขายก็จนกว่า แหวนเราจะหายไปน่ะค่ะ ชุบฟรีครั้งแรก ครั้งต่อไปมีค่าใช้จ่าย ล้างฟรี ตลอดไป
ชอบที่ลีลาเจมส์อย่างนึงคือ เค้าจะไม่พยายามเชียร์ให้เราเอาแบบนั้น แบบนี้ เอาเพชรที่ใหญ่ขึ้น จ่ายตังค์ที่แพงขึ้น ทุกอย่างที่เราตัดสินใจเอง เอาแบบที่เราชอบ เอาเท่าที่เราพอใจจะจ่าย นี่น่าจะเป็นข้อดีของร้านนี้ และการศึกษาไปก่อนเข้าร้าน และมีในใจไปแล้ว ว่าอยากได้อะไรแบบไหน
ได้ความรู้กลับมาจากการคุยกับคนขายเล็กน้อย
เพชรเม็ดเล็กๆไม่ถึงกะรัต เค้าจะเน้น ที่ D E F และ ความสะอาดไม่ต่ำกว่า VS2แต่พอเม็ดใหญ่ขึ้น บางทีน้ำ H , I , J ก็เพียงพอ ยิ่งใหญ่มากมันก็ยิ่งแพงมากจะเอา D / ความสะอาด IF ก็คงเม็ดละหลายล้าน
การวางเพชรใส่ตัวเรือน ถ้าช่างชำนาญ แบบดี เพชรจะดูเด่นและใหญ่ ส่วนตัวเลยคิดว่า เวลาเลือกแหวนเพชร ให้เลือกจากร้านที่เราชอบตัวเรือน ราคาของเพชร แต่ละร้านไม่ต่างกันมาก เพราะเพชรเค้าจะมีราคากลางอยู่แล้ว มันคงต่างกันได้ไม่มากเท่าไหร่ในแต่ละร้าน
การหาข้อมูลก่อนไปซื้อ ก็เป็นตัวช่วยให้การตัดสินใจ ง่าย เร็ว และใกล้เคียงกับงบที่เราตั้งไว้ได้มากที่สุดค่ะ
No comments:
Post a Comment